อัตรากำไรเฉลี่ยสำหรับร้านค้าตัวถังรถยนต์จะหมุนไปรอบ ๆ ชิ้นส่วนและแรงงานโดยเฉพาะ ยอดขายชิ้นส่วนและแรงงานรวมกันทำธุรกิจเกือบทั้งหมดสำหรับร้านขายอะไหล่รถยนต์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากำไรจะเหมือนกัน อัตรากำไรสำหรับชิ้นส่วนนั้นต่ำกว่าอัตรากำไรสำหรับแรงงานและเจ้าของธุรกิจที่ชาญฉลาดจะระบุวิธีเพิ่มกำไรทางการเงินและลดต้นทุนการส่งออก
$config[code] not foundอัตรากำไรสำหรับอะไหล่
รูปภาพของ Anatoliy Babiy / iStock / Gettyการขายชิ้นส่วนนั้นสร้างรายได้จากร้านขายอะไหล่รถยนต์ แต่อาจจะไม่มากเท่าที่คุณคิด โดยเฉลี่ยแล้วตามเว็บไซต์ธุรกิจร้านค้าของร่างกายการขายชิ้นส่วนสร้างรายได้ระหว่าง 36 ถึง 44 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายขณะที่ชิ้นส่วนผลิตกำไรเพียง 20 ถึง 28 เปอร์เซ็นต์ในอัตรากำไร เหตุผลนี้เกี่ยวข้องกับสไตล์และการควบคุม ชิ้นส่วน (โดยเฉพาะอุปกรณ์เสริม) เข้าและออกจากแฟชั่นและรสนิยมของลูกค้าลดลงและการไหล ดังนั้นเจ้าของร้านค้าตัวถังรถมีการควบคุมอย่างมากเพียงเท่าที่พวกเขาสามารถคิดค่าบริการได้อย่างสมเหตุสมผลสำหรับชิ้นส่วน ต้นทุนชิ้นส่วนใดไม่ได้ถูกกำหนดโดยเจ้าของธุรกิจ แต่โดยผู้ผลิตและดังนั้นราคาสำหรับชิ้นส่วนสามารถขยายเกินจริงได้ตามที่ธุรกิจคิดว่าลูกค้าสามารถจ่ายได้
อัตรากำไรสำหรับแรงงาน
Creatas / Creatas / Getty Imagesโดยทั่วไปการขายแรงงานจะสร้างเปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกับการขายชิ้นส่วน แต่อัตรากำไรสูงขึ้นมาก ตามธุรกิจร้านบอดี้ช็อปแรงงานมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกำไรระหว่าง 50 ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่ฉลาดสำหรับเจ้าของร้านค้าตัวถังรถยนต์ที่จะมุ่งเน้นความพยายามในการควบคุมอัตรากำไรของแรงงานโดยการเพิ่มชั่วโมงการทำงานของแรงงานและการรักษาแรงงานเป็นอุปกรณ์หลักในการทำเงิน เจ้าของสามารถเพิ่มผลิตภาพแรงงานโดยให้ความรับผิดชอบแก่พนักงานมากขึ้นและใช้วิธีการบำรุงรักษาและซ่อมแซมยานพาหนะที่พิสูจน์แล้วเพื่อกำจัดข้อผิดพลาดหรือความล่าช้าในการซ่อมแซม
ลดต้นทุนทางเทคนิค
ภาพสต็อกฟรี / ภาพลายจุด / เก็ตตี้เจ้าของร้านค้าตัวถังรถยนต์ยังสามารถลดต้นทุนในด้านเทคนิคเพื่อเพิ่มผลกำไรโดยรวม วิธีหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายด้านเทคนิคคือการลดจำนวนพนักงานที่ร้านค้าทำงานเต็มเวลาและถ้าเป็นไปได้ให้ลดตำแหน่งงานพาร์ทไทม์ตามธุรกิจร้านบอดี้ช็อป มาตรการอีกอย่างคือการฝึกอบรมพนักงานผ่านการใช้แหล่งข้อมูลภายนอก (เช่นการสัมมนาที่จัดทำโดยซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน) และลดหรือกำจัดเครื่องมือและเงินอุดหนุนที่สม่ำเสมอ หมายถึงการลดต้นทุนทางเทคนิคควรได้รับการจัดการอย่างประณีตแม้ว่าจะเป็นมืออาชีพเพื่อไม่ให้เสียหรือขัดจังหวะธุรกิจตามปกติ