การลดลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มลดลงในระยะยาวในการจ้างงานตนเอง ในปีพ. ศ. 2491 สตีฟฮิปโปนักเศรษฐศาสตร์ของ BLS ได้แสดงให้เห็นว่า 12.8% ของแรงงานนอกภาคเกษตรมีส่วนร่วมในการจ้างงานตนเอง
ดังที่ฉันได้กล่าวไว้ว่าการจ้างงานตนเองที่ลดลงเป็นแนวโน้มตามธรรมชาติเมื่อเศรษฐกิจพัฒนาขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากบางสิ่งที่ฉันเรียกว่า“ เอฟเฟ็กต์ Walmart” เนื่องจากประสิทธิภาพของสเกลวอลมาร์ทมาแทนที่ธุรกิจอิสระขนาดเล็กจำนวนมาก ผลลัพธ์ที่ได้คือคนที่ทำธุรกิจของตัวเองน้อยลงและทำงานให้คนอื่นมากขึ้น
อัตราการลดลงของการจ้างงานตนเองจะเกิดขึ้นเนื่องจากจำนวนคนที่ประกอบอาชีพอิสระจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วน้อยกว่าจำนวนการจ้างงาน ระหว่างปี 2553-2563 นักเศรษฐศาสตร์ของ BLS คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเพิ่มจำนวนคนงานประมาณ 20.5 ล้านคนโดย 19.7 ล้านคนจะทำงานให้คนอื่นและอีก 800,000 คนเป็นลูกจ้างของตนเอง ซึ่งคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.4% ต่อปีของค่าจ้างแรงงานและเพิ่มขึ้นเพียง 0.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปีของผู้ประกอบอาชีพอิสระ
รูปแบบที่แตกต่างกับช่วงเวลา 2000 ถึง 2010 ที่เศรษฐกิจสูญเสียแรงงาน 3.2 ล้านคน 400,000 คนเป็นของตนเอง ในช่วงเวลาดังกล่าวรูปแบบมีความคล้ายคลึงกันมากขึ้นสำหรับผู้ที่ทำงานโดยคนอื่นและผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัวทำให้สัดส่วนของการจ้างงานตนเองหดตัวจาก 6.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 6.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
การจ้างงานตนเองระดับรอง (การจ้างงานตนเองโดยคนที่งานหลักทำงานให้กับค่าจ้างหรือเงินเดือน) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นช้ากว่าการจ้างงานตนเองขั้นต้นโดยนักเศรษฐศาสตร์ของ BLS คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ต่อปีจาก 2010 ถึง 2010
นั่นก็แตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2000 ถึง 2010 เมื่อผู้ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คนออกจากตลาดแรงงานส่งผลให้อัตราการลดลง 3% ต่อปี
รูปถ่ายปฏิเสธการจ้างงานตนเองผ่าน Shutterstock